Tuesday, May 15, 2007

โปสการ์ด มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ







ความสำคัญและความเป็นมา
สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตเช่นเดียวกันกับมนุษย์ สัตว์นั้นมีหลายต่อหลายประเภท ทั้งสัตว์กินเนื้อ สัตว์กินพืช สัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง แต่สัตว์ที่เราน่าจะรู้จักกันดีก็คือ สัตว์เลี้ยงเพราะ สัตว์เลี้ยงเพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสัตว์เป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดกับเรามากที่สุด สัตว์เลี้ยงมีหลายชนิด เช่น สุนัก แมว ปลา นก และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสัตว์เหล่านี้ล้วนเป็นเพื่อนกับเราทั้งสิ้น สัตว์เหล่านี้แม้จะจะสื่อสารกับเราเป็นภาษาพูดไม้ได้ แต่มันก็สื่อออกมาเป็นภาษากายให้เรารู้ว่ามันรักเรามากเท่าไร
สัตว์เลี้ยงเหล่านี้เมื่ออายุยังน้อย จมีความน่ารักน่าเอ็นดู คนเราจึงนิยมนำมันมาเลี้ยง แต่พอเมื่อคนบางคนนำมันมาเลี้ยงแล้วมีความเอาใจใส่ในช่วงแรกๆแต่เมื่อเกิดความเบื่อหน่าย หรือสัตว์ที่เลี้ยงนั้นเกิดอาการเจ็บป่วย ก็จะทอดทิ้งไม่ดูแลเอาใจใส่บางคนนำไปปล่อยข้างถนน บางคนนำไปปล่อยที่วัดสัตว์เหล่านี้ก็จะกลายป็นสัตว์จรจัด ไม่มีผู้ดูแลบางตัวก็ตายเพราะอาการเจ็บป่วยที่ติดมา บ้างก็ตายเพราะอุบัติเหตุ ตัวที่ไม่ตายก็จะกลายเป็นสัตว์พิการดูแลตัวเองมิได้ เมื่อปัญหานี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆคนดีบางคนก็จะเก็บมันไปเลี้ยงไปรักษา และได้ทำต่อมาเรื่อยๆนานวันเข้าจำนวนของสัตว์ก็เพิ่มมากขึ้นจนจำเป็นที่จะต้องจัดตั้งขึ้นมาเป็นมูลนิธิ เพิ่มสถานที่ให้กว่างขวางออกไปจำนวนของสัตว์ก็มากขึ้นเรื่อยๆทุกๆวัน และเมื่อจำนวนสัตว์มากรายจ่ายก็จะมีมากขึ้นตามจำนวนเพราะต้องใช้ทั้งค่ายารักษา ค่าอาหาร และอีกต่างๆมากมายทางมูลนิธิจึงจำเป็นต้องหารายได้จากทางด้านต่างๆเช่นการขอความร่วมมือในการบริจาค ขอความร่วมมือจากทางรัฐ ทางเอกชน และอีกวิธีคือการจัดทำของที่ระลึกของทางมูลนิธิ
จากความเป็นมาดังกล่าวเบื่องต้น ทางนักศึกษาจึงตระหนักถึงความสำคัญของมูลนิธินี้ที่ทำการช่วยเหลือสัตว์พิการต่างๆจึงมีความต้องการที่จะช่วยเหลือสีตว์นี้ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจึงเป็นเหตุให้มีความต้องการออกแบบโปสการด์ ให้กับทางมูลนิธิมีไว้เผื่อจำหน่ายหารายได้มาเข้าทางมูลนิธิ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์พิการต่อไป
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษากระบวนการของการออกแบบ
2.เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง
3.เพื่อศึกษารูปแบบของการออกแบบโปสการ์ดได้
4.เพื่อช่วยมูลนิธิ
5.เพื่อช่วยสัตว์ด้อยโอกาส
6.เพื่อให้การออกแบบไม่ยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ
สมมุติฐาน/แรงบันดาลใจ
เกิดจากความน่าสงสารของสัตว์พิการ หรือสัตว์ที่ด้อยโอกาสทั้งหลาย ที่พวกเราควรจะช่วยเพราะ ความเป็นอยู่ของสัตว์เหล่านี้จะมีความยากลำบากมากเพราะเนื่องจาก รายจ่ายที่มีมากพอสมควร ทั้งค่ายารักษาโลก ค่าอาหาร นักศึกษาจึงเกิดความคิดที่จะทำโปสการ์ด เพื่อหารายได้ที่จะนำมาเข้ากับทางมูลนิธิให้ทางมูลนิธิมีค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อไป โดยภาพที่เราจะนำมาทำเป็นโปสการ์ดเหล่านี้จะเป็นรูปของสัตว์ในมูลนิธิ หรือสัตว์จรจัดทั้งหลายที่มีความน่าสงสาร และโทนสีจะทำออกมาในโทนสีดำเพราะ สีขาวดำดูแล้วจะทำให้รู้สึกหดหู่และยิ่งนำภาพสัตว์มารวมเข้าด้วยกันแล้วก็จะยิ้งดูน่าสงสารมากยิ้งขึ้น และในตัวของโปสการ์ดเองนั้น จะต้องมีชื่อของมูลนิธิ และที่อยู่ของมูลนิธิ เพาระถ้าคนไหนหยากที่จะบริจาคเป็นการส่วนตัวก็จะบริจาคได้ถูกที่
ข้อมูลเบื่องต้น
ประวัติการก่อตั้งมูลนิธิฯ
ครอบครัวคุณศตพร ดีพา (เรณู จุลสุคนธ์) ได้ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆเหล่านั้น มาตั้งแต่ปี 2524 ต่อมาเมื่อสัตว์แข็งแรง หายจากการเจ็บป่วยก็เลยเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกภายในครอบครัว เมื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้น สถานที่คับแคบ และเป็นภาระที่ต้องเลี้ยงดู ประกอบกับสัตว์ส่งเสียงดัง ส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน จึงต้องย้ายสถานที่เลี้ยงออกไปนอกเมือง โดยตั้งชื่อว่า "บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ"
ต่อมาในปี 2532 คุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร (ยั่งยืน) ได้ทราบข่าวและมาเยี่ยม แสดงประสงค์ให้ความช่วยเหลือ จึงจัดซื้อที่ดินบริจาค200ตารางวา ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมสร้างโรงเรือนถาวรให้ในปี พ.ศ. 2533 ในปี 2536 หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้เมตตามาเยี่ยมโปรดสัตว์พิการ ได้เห็นถึงสภาพปัญหา และภาระของการเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ จึงจัดสร้างอาคาร และซื้อที่ดินติดกันให้อีก 1ไร่ ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้อุปการะสัตว์พิการ อาทิเช่น สุนัข แมว ลิง เต่า และสัตว์พิการอื่นๆ โดยเฉพาะสุนัขมีประมาณ 700-800 ตัว แมวประมาณ 100 กว่าตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ให้ความสงเคราะห์สัตว์พิการที่บาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีเจ้าของ ให้ได้รับการรักษา มีที่พักพิง และอยู่อาศัยตามอัตภาพ โดยมีสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร คอยให้การดูแลช่วยเหลือ
จากใจคุณพิมพ์กุล
"ตัวเองเป็นคนรักสัตว์ค่ะ รักหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นอะไร แม้แต่ต้นไม้ก็ยังรัก ยิ่งมาเห็นสัตว์ป่วย สัตว์พิการ ก็ยิ่งสงสารมัน เคยมีคนถามว่า มาทำงานนี่ทำไม ทำไปแล้วได้อะไร ดิฉันก็ถามตัวเองอยู่เหมือนกัน คำตอบที่ได้คือ หมาที่ถูกรถชนมันเจ็บปวดแต่พูดไม่ได้ แต่มันก็ต้องการอะไรเหมือนเรา พอเรายื่นเข้าไปช่วย ให้ยา ให้ข้าว ให้น้ำ บางตัวพอหายดีแล้ว เห็นหน้าเรามันดีใจมาก ตามันจะฉ่ำไปด้วยความปลาบปลื้ม นี่คือคำตอบว่า "ทำไม" นั่นคือความภูมิใจลึกๆ มาตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 20 ปี ถึงจะมีปัญหามากมายในการทำงาน หรือมีความทุกข์บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็มีความสุข มีความสุขที่ได้ทำ และได้เห็นงานที่เราเริ่มต้น มันไปได้ดี"
"เริ่มต้นจากการพบเห็นและเก็บสัตว์มาเลี้ยงไว้ด้วยความรัก ความเมตตาและอาทร ต่อมาได้เห็นสัตว์ถูกรถชน ถูกทำร้าย ถูกปล่อยทิ้งและจรจัดขาดที่พึ่งและเป็นที่รังเกียจต่อสังคม
"ครอบครัวคุณศตพร ดีพา (เรณู จุลสุคนธ์) ได้ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆเหล่านั้น มาตั้งแต่ปี 2524 ต่อมาเมื่อสัตว์แข็งแรง หายจากการเจ็บป่วยก็เลยเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกภายในครอบครัว เมื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้น สถานที่คับแคบ และเป็นภาระที่ต้องเลี้ยงดู ประกอบกับสัตว์ส่งเสียงดัง ส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน จึงต้องย้ายสถานที่เลี้ยงออกไปนอกเมือง โดยตั้งชื่อว่า "บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ" มาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
"ต่อมาในปี 2532 คุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร (ยั่งยืน) ได้ทราบข่าวและมาเยี่ยม แสดงความกรุณาต่อสัตว์ โดยประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือและได้จัดซื้อที่ดินบริจาค 200 ตารางวา มอบให้ทางมูลนิธิฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งมูลนิธิฯในปัจจุบัน พร้อมสร้างโรงเรือนถาวรให้ในปี 2533 ต่อมาในปี 2536 หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่า บ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้เมตตามาเยี่ยมโปรดสัตว์ได้เห็นถึงสภาพปัญหาและการเลี้ยงดูและรักษาสัตว์เหล่านี้ จึงได้แผ่เมตตาจัดสร้างอาคารและซื้อที่ดินติดกันให้อีก 1 ไร่ และอนุญาตให้ตั้งเป็น "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)" มาจวบจนทุกวันนี้
"จวบจนปัจจุบันนี้ปี 2545 กว่า 20 ปีที่มูลนิธิฯได้ดำเนินการรักษา ดูแล สัตว์พิการและจรจัด รวมทั้งได้รักษาสัตว์ที่เจ็บป่วย พิการ ส่วนหนึ่งที่มูลนิธิฯดำรงอยู่ได้นั้น เป็นเพราะความเมตตาของคนไทยที่ไหลหลั่งเข้ามายังมูลนิธิฯต่อเนื่องและเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการพ่อแม่บุญธรรม โครงการวันละบาท มูลนิธิฯขอขอบพระคุณทุกท่านและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะเป็นผู้หนึ่งที่เมตตาต่อสัตว์สืบเนื่องต่อไปครอบครัวคุณศตพร ดีพา (เรณู จุลสุคนธ์) ได้ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆเหล่านั้น มาตั้งแต่ปี 2524 ต่อมาเมื่อสัตว์แข็งแรง หายจากการเจ็บป่วยก็เลยเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา กลายเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกภายในครอบครัว เมื่อเพิ่มจำนวนมากขึ้น สถานที่คับแคบ และเป็นภาระที่ต้องเลี้ยงดู ประกอบกับสัตว์ส่งเสียงดัง ส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้าน จึงต้องย้ายสถานที่เลี้ยงออกไปนอกเมือง โดยตั้งชื่อว่า "บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ"
ต่อมาในปี 2532 คุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร (ยั่งยืน) ได้ทราบข่าวและมาเยี่ยม แสดงประสงค์ให้ความช่วยเหลือ จึงจัดซื้อที่ดินบริจาค 200 ตารางวา ณ ที่ทำการมูลนิธิฯ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมสร้างโรงเรือนถาวรให้ในปี พ.ศ. 2533 ในปี 2536 หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้เมตตามาเยี่ยมโปรดสัตว์พิการ ได้เห็นถึงสภาพปัญหา และภาระของการเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้ จึงจัดสร้างอาคาร และซื้อที่ดินติดกันให้อีก 1 ไร่ และอนุญาตให้ตั้งเป็น "มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)" มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้อุปการะสัตว์พิการ อาทิเช่น สุนัข แมว ลิง เต่า และสัตว์พิการอื่นๆ โดยเฉพาะสุนัขมีประมาณ 700-800 ตัว แมวประมาณ 100 กว่าตัว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ ให้ความสงเคราะห์สัตว์พิการที่บาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ที่ไม่มีเจ้าของ ให้ได้รับการรักษา มีที่พักพิง และอยู่อาศัยตามอัตภาพ โดยมีสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร คอยให้การดูแลช่วยเหลือ
แหล่งศึกษาข้อมูล
1.สำนักวิทยบริการสถาบันราชภัฎจันทรเกษม
2.อินเตอร์เน็ต
3.เอกสารต่างของมูลนิธิ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.รู้ถึงกระบวนการออกแบบ
2.ทำการสร้างงานต้นแบบเหมือนจริง
3.รู้ถึงรูปแบบงานต่างๆของโปสการ์ด
4.ได้ประโยชน์ต่อตัวอง
5.มูลนิธิได้ประโยชน์
6.มีการออกแบบใหม่ๆ

เศษรฐกิจพอเพียง



ความสำคัญและความเป็นมา
เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึง การมีพออยู่ พอกิน พอใช้ตามจำเป็น ไม่ต้องการสิ่งใดมากเกินตัวหรือเกินกำลังของตนเอง ความพอเพียงนี้หลายคนอาจเห็นว่า เริ่มกันมาไม่กี่ปี แต่อันที่จริงแล้วความพอเพียงนี้มีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ยกตัวอย่างเช่นการปลูกผักในครัวเรือนหรือการทำเครื่องมือ เครื่องใช้กันเองไม่ขวนขวายหาความลำบากใส่ตัวแต่เมื่อเวลาผ่านไปสังคมเรื่มมีการเปลี่ยนแปลงความพอเพียงเริ่มจางหายไปจากสังคมไทยสังคมไทยเริ่งมีความเร่งรีบ การแข่งขัน การแก่งแย่งชิงดีกัน ทำให้เกิดความวุ่นวาย เช่นการ ต้องการสิ่ที่ไม่จำเป็น อย่ากมีรถสวยๆ การอยากมีบ้านใหญ่ๆ โตๆ อยากมีอำนาจ อยากเป็นใหญ่ในหน้าที่การงาน และอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้เองเป็นตัวบั่นทอนความเป็นสังคมของเรา ด้วยเหตุนี้เอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย จึงมีพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นมา ให้กับประชาชนชาวไทย ให้ชาวไทย นำไปใช้ ให้รู้จักความพอดี พอกินพอใช้ พวามพอเพียงนี้สามารถทำได้หลายอย่างแต่ที่จะแนะนำนี้คือ การเก็บออม การเก็บออมสามารถทำได้หลายอย่างเช่น การหยอดกระปุกออมสิน การฝากธนาคาร เป็นต้น การออมเงินเปรียบเหมือนการวางรากฐานในอนาคตเหมือนการเก็บไว้ใช้ยามแก่ หรือเวลาที่จำเป็น เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วการเก็บออมก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษากระบวนการของการออกแบบ
2.เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง
3.เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง
4.เพื่อส่งเสริมการออมทรัพย์
5.เพื่อพัฒนาความคิด
สมมุติฐาน/แรงบันดาลใจ
การได้ปลูกฝัมมาตั้งแต่อายุยังน้อยเรื่องการ เก็บเงินที่เหลือใช้มาหยอดกระปุกออมสินหรืการใช้จ่ายในสิ่งที่ไท่จำเป็นและเมื่อนึกถึงกระปุกออมสิน ก็จะนึกถึง กระปุกออมสินที่เป็นรูปหมูในการออกแบบโปสเตอร์นี้ ควรออกแบบให้มีความเรียบง่ายเพราะต้องการที่จะสื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นเด็กๆหรือ ลุง ป้า น้า อา พี่ น้องต่างๆได้รู้ถึงการอดออม หรือการออมทรัพย์ได้ง่ายยิ้งขึ้น
ขอบเขตของงาน
ต้องการที่จะสื่อให้คนทุกคนได้เข้าถึงการอดออมได้เข้าใจถึงประโยชน์ของการออมทรัพย์อย่างลึกซึ้ง เพราะเป็นโปสเตอร์ ที่มองแล้วก็จะรู้ทันทีว่าเป็นการอดออมเพราะเป็นรูปของกระปุกออมสิน ที่กำลังหยอดเหรียญที่เห็นอย่างเด่นชัด และในส่วนของพื้นหลังของภาพนั้นทำออกมาเป็นสีเทาอ่อนๆสลับกับสีเทาเข้ม ด้วยเหตุที่ทำเป็นสีนี้เพราะต้องการที่จะเน้นภาพของกระปุกออมสินที่ออกเป็นสีส้มอ่อน และกลุ่มของตัวอักรษรให้มีความเด่นขึ้นและชัดเจนขึ้นไม่แย่งกันมีความโดดเด่น
ขนาดของงาน
A3 ( 29.7ซม. *42.0ซม.)
แหล่งศึกษาข้อมูล
1.สำนักวิทยบริการสถาบันราชภัฎจันทรเกษม
2.หนังสือ B.A.D magazine
3.หนังสือ B.1
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.รู้ถึงกระบวนการออกแบบ
2.ทำการสร้างงานต้นแบบเหมือนจริง
3.มีการออกแบบใหม่ๆ
4.พัฒนาความคิด
5.แผยแพ่รเศรษฐกิจพอเพียง
6.ผู้คนรู้จักการออมทรัพย์

one night in bangkok


ความสำคัญและความเป็นมา
เนื่องจาก ในยุคปัจจุบัน การออกแบบมีความสำคัญมากต่องานทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์ และต่างๆอีกมากมายจนกลายเป็น ส่วนหนึ่งของโลกไปแล้ว และการออกแบบยังแบ่งออกไปอีกหลายประเภท หลายรูปแบบ หลายยุค และหลากหลายสีสัน ตามแต่ที่จะเรียกกัน หรือในแต่ละทวีปก็จะมีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทั้งทางด้านลวดลาย สีสัน รูปแบบ และในแต่ละประเทศ ก็จะมีการแบ่งรูปแบบออกไปให้กลายเป็นสัญลักษณ์ ของประเทศนั้นๆอีกด้วย ซึ่ง จะต้องสื่อออกมาให้อยู่ในรูปแบบของตนเองให้มากที่สุด เพราะถือว่าเป็นเอกลักษณ์ ของตนเองได้
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษากระบวนการของการออกแบบ
2.เพื่อผลิตต้นแบบเหมือนจริง
3.เพื่อศึกษารูปแบบของการออกแบบต่างชาติได้
4.เพื่อส่งเสริมการท้องเที่ยวของประเทศไทยได้
5.เพื่อให้การออกแบบไม่ยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ
สมมุติฐาน/แรงบันดาลใจ
เกิดขึ้นจากความน่าสนใจของกรุงเทพมหานคร ในยามค่ำคืน ซึ่งมิใช่ว่ามีแต่ ผับ บาร์ หรืสถานรื่นเริงต่างๆ เพราะยามค่ำคืนจะมีสถานที่หลายๆแห่ง ที่จัดไว้ให้ได้เที่ยวชมกันอีกมาก และยังจะได้ซึมซับถึงประเพณี วัฒนธรรม และ ประวัติศาสตร์ของประเทศไทย หรือ กรุงเทพมหานครอีกมากมาย ในสถานที่นั้นๆในยามค่ำคืนจะมีการจัดแสงไฟส่องไปยังโบราณสถานไว้อย่างสวยงาม เช่น วัดพระแก้ว วัดเบญ ป้อมพระสุเมร เจดีย์ภูเขาทองบริเวณกำแพงของพระมหาราชวัง และอีกมากมายที่มิได้กล่าวถึง หลายๆสถานที่ต่งๆเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสถานที่สำคัญของประเทศ และมีความสำคัญทางประวัตติศาสตร์ ประเพณีและวัฒนธรรม แต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นั้นจะพลาดมุมมองของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืนไป จึงควรจะมีการจัดทำโปสเตอร์ขึ้นมา เพื่อประชาสัมพันธ์ความสวยงามของกรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนและถ้าต้องการจะนำเสนอ เจาะจงเฉพาะชนชาติใดชนชาติหนึ่ง จึงควรจะดึงเอาความเป็นเอกลักษณ์ของชาตินั้นๆมาเพราะจะส่งผลต่อความน่าสนใจในงานมากยิ่งขึ้น
งานที่ต้องการจะนำเสนอออกมานี้ต้องการจะนำเสนอเจาะจงเฉพาะ กลุ่มของวัยรุ่นอเมริกา เนื่องจากในความเป็นวัยรุ่นนั้นจะมีพลัง ความสนุกสนาน ความเรียบง่ายและความเป็นอิสระและยิ่ง ถ้าเป็นชาวอเมริกัน เขาไปอีกก็จะยิ้งเห็นได้ชัดเจนว่ามีความดิบ ความรุนแรงของงาน สื่อย่างตรงตัวและเสรี และด้วยเหตุผลนี้เองงานออกแบบของอเมริกาจึงมีความน่าสนใจ กระผมจึงจับจุดนี้มาใส่ในโปสเตอร์เพิ่อประชาสัมพันธ์กรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนโดยโปสเตอร์ ออกจะมีความเรียบง่ายพอสมควรตามรูปแบบของอเมริกาและสอดแทรกความสนุกในช่วงวัยรุ่นในโปสเตอร์พื้นของโปสเตอร์
จะมีการใช้สีพ่นคลายกัการพ่นสีเสปร ของศิลปะวัยรุ่นอเมริกัน และรูปภาพของสถานที่ต่างๆที่จัดวางลงไปก็จะเป็นสถานที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร นำมาจัดเรียงอย่างเรียบง่ายดูไม่เป็นระเบียบเพราะจะนำเสนอความดิบ ง่ายต่อการเข้าใจ และจะมีป้ายบอกถนนที่น่าสนใจและมีความสวยงามเช่น ถนนราชดำเนินนำมาตัดขอบออกแบบหยาบๆนำมาวางให้เด่นชัดจะเป็นจุดสนใจได้อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งโดยรวมแล้วการออกแบบในโปสเตอร์จะเป็นทิศทางการออกแบบของอเมริกาเพื่อไห้คนที่เราจะสื่อนั้นเข้าใจในโปสเตอร์ได้ง่ายขึ้น
ขอบเขตของงาน
ขอ้มูลเบื่องต้นเกี่ยวกับงาน งานออกแบบของอเมริกันจะมีความเรียบง่ายในเนื้องานถ้าดูผิวเผินแล้วจะดูหยาบกระด้างหรือรุนแรงไปบ้าง แต่สิ่งนั้นก็จะเป็นเอกลักษ์ของการออกแบบ แต่โดยมากรูปแบบงานของอเมริกาจะไม่ออกมาตายตัว แต่รูปแบบที่จะนำมานำเสนอนี้ จะเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งที่น่าจะดูเด่นชัด
รูปแบบของงาน
นำเสนอต่อประเทศ อเมริกา
ขนาดของงาน
A3 ( 29.7ซม. *42.0ซม.)
แหล่งศึกษาข้อมูล
1.สำนักวิทยบริการสถาบันราชภัฎจันทรเกษม
2.การถ่ายภาพเพื่อทำงานที่ วัดพระแก้ว วัดเบญ ป้อมพระสุเมร เจดีย์ภูเขาทองบริเวณกำแพงของพระมหาราชวัง สนะพานพระพุธยอดฟ้า ตลาดปากคลองตลาด
3.หนังสือ B.A.D magazine
4.หนังสือ B.1
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.รู้ถึงกระบวนการออกแบบ
2.ทำการสร้างงานต้นแบบเหมือนจริง
3.รู้ถึงรูปแบบงานต่างๆของชาวต่างชาติ
4.ชาวต่างชาติรู้ถึงมุมมองใหม่ๆของกรุงเทพมหานคร
5.มีการออกแบบใหม่ๆ
6.พัฒนาความคิด